วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เรื่องเล่าสยองขวัญ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง กรุงเทพฯ

          สถานที่นี้เล่ากันว่า (เป็นตำนานนะครับ จริง ๆ อาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้) ได้รับบริจาคมาจากท่านเจ้าคุณ แล้วท่านเจ้าคุณเนี่ย เมื่อท่านปราบขุนโจรต่าง ๆ ได้ ท่านจะจับวิญญาณพวกมันเอาไว้ผูกติดกับที่ ไว้ให้ปกปักรักษา บางคนก็เลยเชื่อว่าที่ดินตรงนี้ มีผีเก่าผีแก่อยู่มากมายครับ เป็นผีที่อาฆาตแค้นเสียด้วย


          - ศาลในห้องน้ำ

          ศาลที่ว่านี้เดิมตั้งไว้ที่คณะวิศวะฯ ตึกเอ ชั้น 5 ครับ เห็นว่ากันว่าเคยมีสาวคณะสถาปัตย์ อกหักจากหนุ่มคณะวิศวะฯ แล้วเธอก็ได้มาผูกคอฆ่าตัวตายในห้องน้ำชั้น 5 ตึกนี้ และศาลดังกล่าว ก็ตั้งขึ้นเพื่อให้วิญญาณของเธอสงบครับ ห้องที่เธอใช้เข้าไปผูกคอตายนั้น เป็นห้องที่ใช้เก็บของสำหรับแม่บ้านในห้องน้ำครับ เห็นว่าทุกวันนี้ล็อกปิดตายไปเรียบร้อย (จริงเท็จยังไงไม่ขอฟันธงครับ แต่คืนที่ผมไป ห้องที่ว่านี้เค้าก็ล็อกไว้เช่นกัน) ตำนานของศาลในห้องน้ำนี่ก็มาก มายครับ เอาง่าย ๆ ลองคิดตามดู ว่าถ้ามีศาลตั้งไว้ในห้องน้ำ คุณกล้าเข้าไปไหม? ผมคนนึงล่ะครับ ไม่เอาแน่ ๆ ที่ดัง ๆ ก็มีเห็นนางรำ รำออกมาจากในศาล หรือไม่ก็ถ้าไปส่องกระจกในห้องน้ำห้องนี้ก็จะเห็นผู้หญิงคนที่เค้าผูกคอตาย
          เพื่อนผมคนหนึ่งทันช่วงที่ศาลยังอยู่บนห้องน้ำด้วยนะครับ มันเล่าให้ฟังว่าเมื่อตอนที่ไปสอบที่ ม.ลาดกระบัง อยู่ในห้องสอบก็ปวดฉี่ แต่ยังสอบไม่เสร็จก็เลยอั้นไว้ สอบเสร็จก็วิ่งมาเข้าห้องน้ำไม่มองอะไรรอบ ๆ ทั้งนั้น พอเสร็จธุระหันกลับมาเท่านั้นแหละ อื้อหือ... เจอศาลเข้าเต็ม ๆ ไอ้เพื่อนผมก็หันไปมองตาผู้ชายอีกคนที่เข้าห้องน้ำมาด้วยกันครับ มองเงียบ ๆ ไม่พูดอะไรแบบต่างคนต่างเข้าใจ แล้วก็ค่อย ๆ เดินออกไปจากห้องน้ำแบบสงบ (มันมาเล่าให้ฟังทีหลังครับ ว่าตอนเห็นศาลนี่ฉี่เกือบเล็ดออกมาอีกรอบ)
          ตำนานที่มาของศาลในห้องน้ำนี่มีอีกทฤษฎีนึงนะครับ นั่นก็คือเค้าว่าจริง ๆ ห้องน้ำห้องนี้ไม่เคยมีใครตายทั้งสิ้น ศาลที่เกิดขึ้นนั้นเค้าตั้งขึ้นมาเพราะตอนที่สร้างตึกวิศวะในห้องน้ำมีเสาตกน้ำมันข้อมูลตรงนี้ได้ถูกสนับสนุนโดยศิษย์เก่าท่านหนึ่งครับ เป็นรุ่นพี่รุ่นแรกที่ได้เรียนที่ ตึกวิศวะฯ หลังสร้างเสร็จ (ถ้าจะมีใครข้อมูลชัวร์สุด ก็คงคนนี้ล่ะครับ) เค้าเล่าให้ฟังว่า ตอนแรกก็เป็นเสาตกน้ำมันธรรมดา ๆ นี่ล่ะ ซึ่งเมื่อมีเสาตกน้ำมันก็เป็นธรรมดาที่พวกแม่บ้านเค้าจะไปขูดหวยขอเลข พอถูกหวยหนัก ๆ เข้า ก็เลยสร้างศาลให้ตอบแทนเค้านั่นเอง
          ตอนนี้ศาลดังกล่าวย้ายลงมาที่ชั้น 5 แล้วนะครับ เป็นศาลปูนใหญ่โต ชื่อศาลว่า "ศาลเจ้าแม่ศรีแพรทอง" อยู่ด้านหลังตึกวิศวะตึกเอนี่เอง ใครผ่านไปผ่านมาแวะไปสักการะกันได้ครับ
          เรื่องราวดูเหมือนจะคลี่คลายนะครับ สำหรับตำนานศาลในห้องน้ำ ถ้าไม่มีบันทึกเมื่อ 40 ปีที่แล้วจาก สน. จระเข้น้อย ...ดาบตำรวจบุญเที่ยง สนธิ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำ สน. จระเข้น้อย เล่าให้ฟังครับ ว่าเมื่อ 40 ปีก่อนนู้น ทั้งตำรวจ ทั้งอาจารย์ ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกัน ว่าเคยมีนักศึกษาสาวผูกคอฆ่าตัวตายจริง เพียงแต่ไม่มีข้อมูลบันทึกไว้ว่าเธอเป็นใคร เพราะข้อมูลได้หายสาบสูญไปอย่างไม่ ทราบสาเหตุ ดาบตำรวจบุญเที่ยง สนธิ แกทิ้งท้ายไว้น่าฟังครับ ว่า "ถ้าเรื่องมันไม่มีส่วนจริง เค้าจะเล่ากันมาทำไมตั้งนาน" ก็ยังคงเป็นปริศนาดำมืดต่อไปครับ สำหรับเรื่องผีโคตรตำนานมหาวิทยาลัยไทย ศาลในห้องน้ำ

          - ห้องน้ำที่สตูดิโอ ตึกสถาปัตย์

          ที่มหาลัยนี้ผีในห้องน้ำดุครับ นอกจากวิศวะฯ แล้ว ห้องน้ำสถาปัตย์ก็ใช่ย่อย ห้องน้ำที่สตูดิโอ ตึกสถาปัตย์ เห็นว่าเคยมีนักศึกษาสาวต่างคณะคนหนึ่งไปประแป้งส่องกระจก ก็พูดกับเพื่อนว่า กระจกห้องน้ำห้องนี้ส่องแล้วสวยเนาะ ปัญหาคือห้องน้ำห้องนั้นมันไม่มีกระจกครับ เรื่องนี้น้องสาวสนิทผมคนหนึ่งยืนยันครับ เพราะเธอเจอมากับตัวว่าเห็นกระจกในห้องน้ำห้องที่ว่าจริง ๆ จนเพื่อนทักก็เลยกลับไปดูอีกที ซึ่งพอกลับไป ก็ไม่พบกระจกใด ๆ ในห้องน้ำแล้ว (หลาย ๆ คนก็ยังสงสัยครับ ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ติดกระจก)
          - ตึกทรงไทย สถาปัตย์

          เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่ามากแล้วครับ คือมันจะมีทางเดินเส้นหนึ่งครับ เชื่อมระหว่างตึกสถาปัตย์ไปยังตึกทรงไทย เป็นทางเดินตรงยาว มีซุ้มหลังคา เรื่องนี้เห็นว่ามีคนพบเจอกันเยอะมากครับ เล่าว่าตอนกลางคืนเด็กทำงานกันเสร็จก็เดินจะกลับหอ พอเดินมาถึงบริเวณทางเดินอันนี้ มีหลายคนเลยครับบอกว่าพบผู้หญิงในชุดรำไทยเต็มยศ ยืนขวางทางเดินอยู่ แล้วพอเราอึ้งได้ซักพัก ผู้หญิงคนนี้เค้าจะรำ ไม่ได้แค่รำอย่างเดียวนะครับ ระหว่างที่รำ เท้าของเธอจะลอยสูงขึ้นเรื่อย ๆ รำไปลอยไป จนศีรษะของเธอติดหลังคา เธอก็ยังไม่ยอมหยุดลอยครับ ยังคงรำไปลอยต่อไปเรื่อย ๆ จนคอเธอหักคาหลังคา
          เรื่องนี้เห็นว่าแต่ก่อนนี่โดนกันเยอะจริงๆครับ จนทางมหาลัยต้องนำเอาหลังคาที่ว่านั้นออกไป (เหมือนกับหลังคาตรงนี้น่าจะไปสร้างทับที่เค้า) ผมไปดูทางเดินตรงนี้มาเล่นเอาขนลุกเลยครับ เพราะเจอตอคล้าย ๆ เสาเชื่อมหลังคาเป็นจุด ๆ หลายอัน สรุปหลังคาเคยมีครับ แล้วโดนตัดออกไปนี่ผมยืนยันเลยว่าเรื่องจริง แต่จะโดนตัดออกไปเพราะอะไร ตรงนี้ไม่ทราบครับ...
          ตอนที่อยู่ที่ตึกทรงไทย ข้าง ๆ กันก็มีชมรมซ้อมดนตรีไทยกันอยู่ครับ (ตอนแรกก็หลอนแหละ ได้ยินเสียงดนตรีไทยนึกว่าโดนแล้ว) จนขากลับมาคุยกับคุณฟิล์มเพื่อนผม มันบอกร้องเอื้อนได้น่ากลัวเป็นบ้า ผมก็เหวอสิครับ เพราะไอ้เสียงดนตรีไทยที่ได้ยินกันตั้งหลายคนน่ะ มันไม่มีเสียงเอื้อนอะไรเลยนะเว้ยยย ก็กลับไปถามทันทีครับ ว่าที่พี่ ๆ เค้าเล่นดนตรีกันอยู่มันมีท่อนเอื้อนด้วยรึเปล่า คำตอบคือไม่มีครับ (แล้วที่ฟิล์มได้ยินมันคืออะไรรรรร !!??) ฟิล์มเล่าว่า เป็นเสียงเอื้อนตามเพลงของผู้หญิงครับ เอื้อนได้เหงาจับจิตเลย
          สำหรับเรื่องสุดท้ายที่ได้ยินมา ผมว่าเพ้อเจ้อไปหน่อยครับ 55555 ที่ห้องเคมี 1 ตึกวิทย์เก่า ว่ากันว่าเคยมีนักศึกษาทำแล็บ แล้วพลาดเกิดระเบิดขึ้น จากนั้นวันดีคืนดีพี่ยามจะเห็นภาพหลอน เหมือนห้องแล็บนั้นระเบิดแสงวาบขึ้นมา เสียงดังสนั่น แต่พอมองอีกทีก็ไม่มีอะไรปกติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น